เทศน์เช้า วันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๒
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
เอานะ ตั้งใจฟังธรรมะนะ ตั้งใจฟังธรรมๆ เวลาโยมมาวัดมาวา เห็นไหม เป็นปัจจัย ๔ อาหาร เครื่องอยู่อาศัยเป็นปัจจัย ๔ แสวงหามาเต็มศาลาเลย มีเต็มไปหมด นั่นน้ำใจของคน ถ้าน้ำใจของคนมันเป็นบุญเป็นกุศล ถ้าเป็นบุญกุศลนะ เราแสวงหาสิ่งนี้
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้กับบริษัท ๔ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา อุบาสก อุบาสิกา ฝากศาสนาไว้
เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาศาสนา เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม กราบธรรมๆ ไง ถ้ากราบธรรมๆ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาจากไหน
ในบรรดาสัตว์สองเท้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเสริฐที่สุด ในบรรดามนุษย์ๆ ไง เวลาศาสนาก็มาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมาๆ ตรัสรู้ธรรมขึ้นมาเพื่ออะไร ตรัสรู้ธรรมขึ้นมาเพื่อความสุขไง
ความสุข ความสุขของคนทุกข์คนยาก คนทุกข์จนเข็ญใจ ถ้าเรามีบุญกุศล สิ่งนั้นด้วยอำนาจวาสนา เรามีปัจจัยเครื่องอาศัยจะเป็นความสุขของเรา ใครมีครอบครัวแล้ว ครอบครัวร่มเย็นเป็นสุขก็เป็นความสุขของเรา
เวลาคนเกิดมา ชีวิตนี้มีการพลัดพรากเป็นที่สุด เวลาชีวิตนี้มีการพลัดพรากเป็นที่สุด คนเราเกิด เกิดมาทำไม เกิดแล้วตายแล้วไปไหน มาสิ่งใดไง
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นมนุษย์ เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้กับบริษัท ๔ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ถ้าอุบาสก อุบาสิกา มนุษย์เกิดมาจากไหน มนุษย์เกิดมาจากพ่อจากแม่
พ่อแม่เวลามีลูก อยากเกาะชายผ้าเหลืองๆ เวลาการเกาะชายผ้าเหลือง ผ้าเหลืองอยู่ที่ร้านขายเต็มไปหมดเลย ไม่ไปเกาะนู่นน่ะ ไอ้นั่นมันไม่ใช่สายบุญสายกรรม
เวลาสายบุญสายกรรม เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกบวช พระเจ้าสุทโธทนะมีความสะเทือนหัวใจมาก ความสะเทือนหัวใจเพราะอะไร เพราะมีความปรารถนาไว้อยากต้องการให้เป็นจักรพรรดิ แต่เวลาออกไปบวชแล้วเวลาประพฤติปฏิบัติขึ้นมา สิ่งที่เป็นจักรพรรดิมันก็เป็นประวัติศาสตร์อันหนึ่ง เวลาเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามันมหัศจรรย์ลึกลับซับซ้อนมหาศาลเลย สอนทั้งมนุษย์ สอนทั้งเทวดา สอนทั้งพรหม เวลาตกนรกอเวจี เขาทำบุญกุศลขึ้นมา พ้นกลับขึ้นมาได้
เวลาไปสอนพระเจ้าสุทโธทนะ พระเจ้าสุทโธทนะได้เป็นพระอรหันต์ นางพิมพาได้เป็นพระอรหันต์ สามเณรราหุลได้เป็นพระอรหันต์ เป็นพระอรหันต์หมดเลย พระอรหันต์คืออะไร ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย ไม่ต้องมาเกิดอีกแล้ว
ไอ้ที่มาเกิดๆ กันอยู่นี่ไง เรามาเกิด มาเกิดเพราะอะไร เรามาเกิดเพราะเรามีเวรมีกรรมไง มีเวรมีกรรมที่ไหน มีเวรมีกรรมที่การกระทำ มาวัดมาวานี่ทำบุญ ทำบุญ บุญนี้ติดกับหัวใจนั้นไป
เวลาคนทำบุญ บริษัทสอนนะ มันเป็นทิพย์สมบัติๆ ทิพย์สมบัติมันเป็นอย่างไร ทิพย์สมบัติมันก็ที่หัวใจนี้ไง หัวใจ เวลาข้าวปลาอาหารเก็บไว้มันเน่ามันบูดหมด แต่ถ้าเป็นทิพย์สมบัติอยู่ในหัวใจ ๑๐ ปีมันก็สดๆ ร้อนๆ ยังสดๆ ร้อนๆ อยู่เลยนะ เราคิดถึงเมื่อไหร่มันสดๆ ร้อนๆ เมื่อนั้น เห็นไหม
นี่ก็เหมือนกัน เวลาเป็นทิพย์ๆ ไง เวลาไปเกิดเป็นเทวดา เป็นอินทร์ เป็นพรหม ไม่มีตลาด ไม่มีการซื้อขาย ไม่มีการแลกเปลี่ยน อยู่ด้วยบุญกุศลของตนเท่านั้น เพราะมีบุญกุศลขึ้นมามันถึงเกิดในสถานะนั้น
เวลาคนจะสิ้นอายุขัย เวลามันหมดบุญๆ ไง หมดบุญ อาหารของการเป็นเทวดามันเป็นแสงของบุญกุศลนั้น มันร่อยหรอลงจนหมดอาหาร ตาย ตายก็มาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะไง พอเวียนว่าตายเกิดในวัฏฏะ เรามาเกิดเป็นมนุษย์
เรามาเกิดเป็นมนุษย์นะ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้กับบริษัท ๔ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
อุบาสก อุบาสิกา เวลาพระมาจากไหนๆ พระก็มาจากคน เวลาคนมีอำนาจวาสนา คำว่า “มีอำนาจวาสนา” นะ ทำสิ่งใดก็ได้ในชีวิตของเรา ประชาธิปไตยๆ มันเป็นสิทธิ์ของเราทำอะไรได้ทั้งสิ้น แต่เพราะเรามีศรัทธามีความเชื่อ เราขอบวช เวลาขอบวชไปแล้วมีศีล ๒๒๗ มีวัตรปฏิบัติอีกมากมายมหาศาล สิ่งที่เป็นกันชนได้ยากของภิกษุบวชใหม่ๆ ไง
ฆราวาส ความเป็นฆราวาสต้องมีสิทธิมีเสรีภาพ มีความสุข มีความพอใจทั้งสิ้น นั่นคือสิทธิ์ของเรา มาบวชเป็นพระ ตูม! นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ปรารถนาอย่างอื่นไม่ได้สิ่งใดเลย ไม่ได้สิ่งใดเลยเพราะอะไร
ดูนะ เวลาคนเขาไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวน่ะ เวลาที่ไหนมีคน ที่นั่นมีขยะ ทุกคนก็ไปทิ้งๆๆ เวลาถังขยะอยู่นั่นน่ะ มันยังไม่ทิ้งถังขยะเลย มันทิ้งข้างๆ ถังขยะ แต่คนที่เขาใจเป็นธรรมนะ เขาไปเห็นแล้วนะ เขาไปเก็บขยะๆ
ดูจิตใจของคนสิ จิตใจของคนที่ดีงามๆ จิตใจของคนที่ดีงาม สิ่งใดที่คนอื่นทิ้ง ไม่ใช่เรื่องของเราเลย แต่มันมีผลกระทบกับสภาวะแวดล้อม มันมีผลกระทบกับโลก มันมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของสังคม
คนคนเดียวทำน่ะ มันสะเทือนสังคมไปทั้งหมดเลย คนคนเดียวทำน่ะ มันไปเที่ยวเก็บขยะ เก็บสิ่งใดไปไว้เป็นที่เป็นทาง ไว้เป็นที่เป็นทางนะ นั่นมาจากไหนล่ะ มาจากหัวใจไง
สิ่งที่มาจากหัวใจ เห็นไหม เวลาบวชพระ เวลาเราเป็นพระขึ้นมา เรามีศีล ๒๒๗ เรามีกติกาเป็นการควบคุมเรา ศีลคือรั้วของใจ คือความรู้สึกนึกคิด มันคิดไปรอบโลก เราก็มีศีลล้อมมันไว้ แล้วเราฝึกหัดภาวนา
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมๆ ไง ตรัสรู้ธรรมที่ไหน ตรัสรู้ธรรมในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เวลาบวชพระๆ นี่ไง ผ้าเหลืองที่ร้านมหาศาลเลย ทำไมไม่ไปเกาะชายผ้าเหลืองนู่นน่ะ แต่เวลาลูกหลานเราบวชนะ เลือดเนื้อเชื้อไข นี่ไง เลือดในอก เลือดเนื้อเชื้อไขไปค้ำจุนศาสนา ค้ำโพธิ์ๆ ไง นี่ไง เวลาประเพณีวัฒนธรรม เวลาบวชได้บุญ ๑๖ กัป พ่อแม่ได้บุญกุศลเกาะชายผ้าเหลือง นี่มาค้ำโพธิ์เรื่องของประเพณีวัฒนธรรม แต่เวลาบวชแล้ว นี่ไง โพธิๆ พุทธะในหัวใจไง
ถ้าประพฤติปฏิบัติขึ้นมา เราบวช เห็นไหม เวลาหลวงตาท่านสอน พระบวชแล้ว บวชโกนหัวโกนคิ้ว บวชมาตามประเพณี แต่หัวใจยังไม่ได้บวช เวลาหัวใจยังไม่ได้บวช เวลาจะบวชหัวใจ เราเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา เดินจงกรมอย่างไร เดินไปทำไม เรานั่งสุขสบายดีอยู่แล้วไง ถ้าดีอยู่แล้ว แล้วจิตใจมันอยู่กับเราไหม เวลาเราสะดวกสบายมันก็นั่นน่ะ นี่ไง เวลาที่มันว่ามันสะดวกของมัน มันพอใจของมัน พอใจของมันเดี๋ยวมันก็คิดของมันอีก
แต่ถ้ามันเป็นความจริงๆ สิ่งที่เราการกระทำๆ ไง กระทำก็ทำในหัวใจของเรา ถ้าทำในหัวใจของเรา เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา มันจะเข้ามาในหัวใจของเรา ถ้ามันจะเข้ามาในหัวใจของเรา เราปรารถนากันตรงนั้น
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม ตรัสรู้ธรรมในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนารื้อสัตว์ขนสัตว์ รื้อสัตว์ขนสัตว์ในหัวใจของสัตว์โลก เพราะหัวใจของสัตว์โลกมันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ
จิตเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เพราะเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เพราะมีบุญมีกรรมของเรามานั่งอยู่นี่กันไง มานั่งอยู่นี่มันมาจากไหน ที่มานั่งกันอยู่นี่มันมาจากไหน ถ้ามันไม่มีเหตุ มีปัจจัยได้อย่างไร ถ้าไม่มีเหตุ มันมาเกิดได้อย่างไร
เวลาจะมาเกิด เวลาบุญกุศลมันบาลานซ์กันนะ ทางการแพทย์ไง เวลาใครท้องต้องทำอารมณ์ให้ดีๆ อยากให้ลูกแข็งแรง อยากให้ลูกแจ่มใส...มันช้าไปแล้ว ปฏิสนธิจิต เวลาจิตมันบาลานซ์ขึ้นมา ปฏิสนธิวิญญาณ กำเนิด ๔ ในไข่ ในครรภ์ ในน้ำครำ ในโอปปาติกะ สายบุญสายกรรมมันเสมอกัน มันถึงมาเกิดร่วมกัน เวลากรรมพาเกิดๆ ไง เวลาเกิดขึ้นมาแล้ว เห็นไหม แต่โลกคิดได้แค่นี้ไง ค้ำโพธิ์ๆ ไง ค้ำโพธิ์ๆ
ทางวิทยาศาสตร์ เด็กมันจะอารมณ์ดีต้องอย่างนั้น ต้องมีสภาวะแวดล้อม
เลี้ยงดูมันดีๆ ดีสุดดีเลย มันเชื่อฟังไหม
คนดี ดีมากมายเลยนะ คนนี้ก็เป็นคนดี คนนั้นก็เป็นคนดี เวลามันเสพยา คบเพื่อนที่ไม่ดี เวลาต่างๆ เสียไปหมดเลย นี่มันก็ดีมาทั้งนั้นน่ะ คนมันมีเวรมีกรรมไง ถ้ามีเวรมีกรรม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธศาสนาไง กมฺมพนฺธุ กมฺมปฏิสรโณ เรามีกรรมเป็นที่พึ่ง มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ที่เรามาวัดมาวากันอยู่นี่ เราฟังธรรมๆ ฟังธรรมก็เพื่อให้ปัจจุบันนี้ดีงามไง
ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อดีตอนาคตแก้กิเลสไม่ได้ ต้องปัจจุบัน
แล้วปัจจุบัน ปัจจุบันที่ไหน
อ่านตำรับตำราเข้าใจไปหมดน่ะ มีความรู้มหาศาล ความรู้ไง เวลาความรู้ ความรู้ไว้เพื่อประโยชน์นะ เพื่อประโยชน์การจรรโลงพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนามีการศึกษา เวลาเราศึกษาธรรมะวันอาทิตย์ เราศึกษาให้เด็กมันมีพื้นฐานของมันไง ถ้าเด็กมีพื้นฐานของมัน เริ่มต้นของการเป็นคนดีไง
ไม่ต้องบอกนิพพานๆ ไม่ต้องนิพพานหรอก นิพพานมันถึงที่สุดแล้ว มันยอดเยี่ยมในโลกนี้ ในสามโลกธาตุ อย่าว่าแต่ในโลกนี้เลย เทวดา อินทร์ พรหม คำว่า “เทวดา อินทร์ พรหม” เขาต้องมีความสุขของเขาในภพชาติของเขา ทำไมเขามาฟังเทศน์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
นี่ไง ที่ว่านิพพานมันวิวัฏฏะ ออกไปสามโลกธาตุ เหนือพรหม เหนือทุกอย่าง เพราะมันเหนือกว่า มันมีอำนาจเหนือกว่า มันถึงจะพ้นจากความดึงดูดของเขาได้ แรงโน้มถ่วง แรงโน้มถ่วงที่มันดึงดูดไง มีเวรมีกรรมขึ้นมา มันชอบ มันพอใจ มันก็ติดของมันไปไง ถ้ามันเป็นความจริงขึ้นมา เวลาทำความสงบของใจเข้ามา เขาต้องการตรงนี้ไง
เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนารื้อสัตว์ขนสัตว์ ประเพณีวัฒนธรรมที่เราศึกษา มีการศึกษามานั่นน่ะ นั่นน่ะเขาเรียกศาสนพิธี พิธีในพระพุทธศาสนา พิธีคือวิธี เวลาเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนาก็วิธี แล้วก็จะเถียงกันแล้วนะ วิธีใครถูกไง ทุกข์ของใคร ถ้าใครกำจัดทุกข์ในใจของตนนั่นน่ะถูก แล้วถ้าถูก ถูกแล้วมันถูกกับกิเลสของเราหรือถูกกับธรรม
ถ้าถูกกับธรรม อริยสัจมีหนึ่งเดียว ครูบาอาจารย์ท่านประพฤติปฏิบัติแล้วมันจะเป็นอันเดียวกัน ถ้าเป็นอันเดียวกันมันมาจากไหนล่ะ เวลามันมาจากไหน เห็นไหม ตำราน่ะ สาธุ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงตาท่านบอกเลย แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่งอยู่ตรงหน้าก็ไม่ถาม ถ้าถามคือมึงสงสัย ถ้าถาม มึงไม่รู้ ถ้ารู้ไปถามอะไร เพราะถ้าถาม ท่านก็ตอบแบบนี้ ตอบแบบที่เป็นความในใจของเรา ถ้ามันเป็นความจริงนะ แต่ถ้าไม่เป็นจริง มันโลเล มันสงสัย
หลวงตาท่านสอน ถ้ายังติดตัวเองนะ ยังมีตัวตนของตนอยู่นะ ติดเขาไปหมดล่ะ ถ้าตัวตนของเราไม่ติด มันจะไปติดใคร
แต่ถ้ามันติด ไม่ต้องไปติดโยมหรอก ไม่ต้องไปติดอะไร ติดที่ใจมันนี่ ถ้าใจมันติด มันปรารถนา มันอยากได้ มันมีเล่ห์กล มันวางแผน มันพลิกแพลง
แต่ถ้าข้างในมันไม่ติด ไม่ติดเพราะอะไร ถ้ามันไม่ติดมันต้องมีเหตุมีผลของมันนะ คำว่า “มีเหตุมีผล” พระพุทธศาสนา ธรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ ไม่มีลอยมาจากฟ้า ไม่มีใครมาจัดการให้
การลอยมาจากฟ้า การจัดการ นี่ไง พ่อแม่ไง พ่อแม่จัดการให้ลูกอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ดี ทุกอย่างเราจัดให้หมด นี่การจัดให้ แต่เวลาเด็กมันดี มันดีของมันเอง เด็กมันต้องดี
ธรรมดาเรามีสายบุญสายกรรมนะ กรรมที่ดีงาม คำว่า “ดีงาม” ส่งเสริมจุนเจือกันมา มันมาส่งเสริม มันดีงามทั้งหมดน่ะ อันนั้นคือวาสนา
คนเรานะ เกิดมา ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านะ ในบรรดามนุษย์ ในบรรดาสัตว์สองเท้า เราไม่เคยเป็นญาติกัน เราไม่เคยเป็นเพื่อนกัน เราไม่เคยเกิดร่วมตระกูลเดียวกัน ไม่มีเลย การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะมันซับซ้อนขนาดนั้นน่ะ
พอมันซับซ้อนขนาดนั้นแล้ว สิ่งที่มันมีผลกระทบกันมา สิ่งที่เป็นบวกมาก็สาธุ สิ่งที่มันเป็นลบอะไรมา เราก็แก้ไข เพราะเราทำมา กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมา เราทำมาทั้งนั้นน่ะ เราไม่ได้ทำมา ไม่ได้พบไม่ได้เห็น เพราะเราทำมา แล้วทำมาดีหรือทำมาชั่ว ทำมาดี ทำมาชั่ว
ทุกคน จิตทุกดวง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบอกท่านเคยตกนรกมาก่อน คำว่า “ตกนรก” จิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะมันหมุนเวียนของมันไป แต่พอมาตั้งปฏิภาณจะมาเป็นพระโพธิ์สัตว์ เวลาทำไปแล้วๆ พอพระพุทธเจ้าพยากรณ์แล้ว ไม่มีแล้ว นรกไม่มี มีแต่คุณงามความดีทั้งนั้น คุณงามความดีทำเพราะอะไร คุณงามความดีทำด้วยหัวใจ เห็นไหม
ขยะเขาทิ้งกัน มันไม่ใช่หน้าที่อะไรของเราเลย มันเห็นแล้วมันทนไม่ได้ เห็นแล้วมันเก็บของมัน มันดูแลของมัน มันรักษาของมัน เพราะหัวใจเขาประเสริฐ เขาประเสริฐที่หัวใจนั้น ไอ้ของเราน่ะมักง่าย สะดวก ยอดเยี่ยม คนเก่ง...ไร้สาระ
คนเก่งนะ เขาวัดกันด้วยศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ คุณงามความดีมันอยู่ที่นี่ ถ้าคุณงามความดีมันอยู่ที่นี่ นี่ไง เวลาความดี องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาตรัสรู้อยู่โคนต้นโพธิ์ มีใครไปเห็นบ้าง มีใครเป็นคนสรรเสริญบ้าง
เวลาตรัสรู้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อยู่โคนต้นโพธิ์นั้น เวลาแสดงธัมมจักฯ ขึ้นมา เทวดาส่งข่าวขึ้นไปเป็นชั้นๆๆ ขึ้นไปเลย เพราะเทวดา อินทร์ พรหมเขารอตรงนี้ไง มัชฌิมาปฏิปทา แล้วมัชฌิมาปฏิปทามันอยู่ตรงไหน มัชฌิมาปฏิปทา เมตรหนึ่ง ห้าสิบเซนต์ฯ นี่มัชฌิมาปฏิปทา โลกมันคิดกันอย่างนั้นไง ทางสายกลางก็มาแบ่งครึ่ง ทางสายกลาง...ไม่ใช่
แม้แต่สัมมาอาชีวะนะ มรรค ๘ เวลาทางโลกเขาว่าสัมมาอาชีวะๆ ไอ้นี่มันเลี้ยงชีพ ถ้าเป็นสัมมาอาชีวะ ถ้าสอนกันศาสนพิธีถูกต้อง ใช่ เราเป็นชาวพุทธใช่ไหม เรามีศีล ๕ เรามีความเมตตา เรามีความเสียสละ เราทำของเราเพื่อเรา อย่างนี้เป็นสัมมาอาชีวะไหม ใช่ เลี้ยงชีพโดยชอบ แต่เลี้ยงชีพโดยชอบ เลี้ยงปากไง เลี้ยงชีวิตไง
แต่เวลาจิตมันสงบเข้าไปแล้วนะ อารมณ์ความรู้สึกคืออาหาร มันเสวย ความคิด สัญญาอารมณ์เป็นอาหารของใจ ใจมันคิดดี โอ้โฮ! เป็นเทวดา ใจมันคิดชั่ว อย่างกับเปรต คนคนเดียวเป็นได้ทุกๆ อย่างเลย นี่สัมมาอาชีวะ
แล้วถ้าสัมมาอาชีวะ ถ้ามันเป็นสัมมาสมาธิล่ะ สัมมาสมาธิมันก็สงบระงับเข้ามา มันจะกินอะไรมันเลือกนะ หลวงตาท่านสอนประจำนะ คนหิว คนโหย คนกระหาย คนหิวอะไรมามันตะปบหมดแหละ หัวใจของเราทั้งหิว ทั้งโหย ทั้งกระหาย มันกินทุกอย่างอะไรผ่านมา จั๊บๆๆ เลย ความคิดมันคิดได้ทั้งหมดเลย แต่ถ้าคนอิ่มหนำสำราญนะ อาหารที่ดีมา กิน อาหารที่ไม่ดีมา ผลักไส
นี่ไง เวลาเราคิดดีมา เราเสวย เราทำคุณงามความดีของเรา ถ้าเราคุณงามความดีนะ คนถ้ามีสติปัญญา ถ้ามันคิดดีนะ เหยียบคันเร่งเลย ทำคุณงามความดี ประพฤติปฏิบัติทำให้ดีของเรา
แล้วสิ่งจำเป็นที่สุด สติ เวลามันคิดชั่ว เบรกมันไว้ เบรกมันไว้ คิดไม่ดี พยายามเบรกมันไว้ ทั้งเบรก ทั้งคันเร่ง มันอยู่ตรงไหนล่ะ ไม่ได้ทำ ไม่รู้สึก
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้กับบริษัท ๔ เราเป็นอุบาสก อุบาสิกา เราเป็นเจ้าของศาสนา เราได้รับมรดกกันมาแล้ว แต่เราไม่เคยคิดจะใช้คุณธรรม มรดกที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฝากไว้ให้ เก็บไว้ในตู้พระไตรปิฎก เก็บไว้ให้พระ แล้วฉันจะเป็นคนมีความสุข...ร้อนอย่างกับไฟ
เวลาพระนะ เวลาคน เวลาจะเทศนาว่าการไง “โฮ้! หลวงพ่อหัวโล้นๆ ไม่เคยไปไหนเลยจะสอนเขาได้อย่างไร”
สอนที่หัวใจมึงไง หัวใจคนที่ทุกข์ เพราะอะไร เพราะพระบวชใหม่ พระบวชใหม่ก็มาจากโลกนี่แหละ นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้สักอย่างนะ ฆราวาสน่ะ ผิดหมดน่ะ
เขาเรียกสมณสารูป ต้องมีสมณสารูป ต้องมีความสงบ สงบจากภายนอก แล้วสงบจากภายใน ถ้าสงบจากภายในนะ เวลามันจะเอาชนะตนเอง นั่นน่ะ พระที่ประพฤติปฏิบัติมาเขาจะเห็นเลยว่าเวลากิเลสมันดิ้นมันรน มันพลิกมันแพลง มันจะเป็นจะตายนะ
มันก็เหมือนทางโลกนั่นแหละ เวลาติดแสงสีเสียง คนใจแตก แล้วคนใจแตก แล้วจะรวมใจให้มันเป็นหนึ่ง ไม่ให้มันแตก แล้วเวลามันแตก มันแตกที่ไหน แล้วพอมันจะแตกแล้ว คนเราเป็นไข้อยู่แล้ว ไม่สบายอยู่แล้ว ของแสลงมันก็เยอะไง ไอ้นู่นก็ยุ ไอ้นี่ก็แหย่ ไอ้นี่ก็เพิ่มจำนวนเข้าไป ไอ้กิเลสมันก็ยุมันก็แหย่ มันก็แผดมันก็เผา กระทืบอยู่นั่นแหละ แล้วครูบาอาจารย์ก็อยู่ข้างนอกนะ ทำสมาธิสิ มีศีลมีธรรมแล้วมันจะเย็น
เย็นที่ปากอาจารย์ไง แต่เราร้อนเกือบตาย นี่มันพยายามของมันไง
นี่ไง พระจะเอาอะไรมาสอน
ก็เอาหัวใจนี้มาสอน เอาเวลามันจะตาย เวลามันทุกข์มันยาก แล้วเวลามีสติปัญญา พอเวลามีสติ เวลากำหนดพุทโธแล้วมันสงบ เออ! สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี มันก็มีความสุขบ้างแหละเนาะ มันมีความสุข มันจะมีความมุมานะหรือ นี่ไง สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี
ความสุขที่โลกแสวงหา ปีใหม่ มันจะไปเที่ยวกัน จะไปหาความสุขกัน
อยู่บ้านนะ เข้าห้องพระนะ หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ สุขที่สุด ความสุขหาได้ที่หัวใจนี้ หัวใจของเรา จิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะถึงมีค่าไง มีค่ามากนะ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นถึงสัตว์โลก จิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะมีค่ามาก สิ่งที่มีชีวิต คนมันเสมอกันที่นี่ไง มันมีสิทธิเหมือนกันไง พุทธะ ทุกคนมีหมด ทุกคนมีความรู้สึก พุทธะคือความรู้สึก พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
แต่พวกเราขว้างทิ้ง เอาแต่การศึกษาทางโลก นั่นเป็นอาชีพนะ เราไม่ได้ติเตียนว่าการศึกษา การศึกษานั้นเป็นสิ่งที่ทำให้โลกนี้เจริญ การศึกษานั้นทำให้เรามีสัมมาอาชีวะ แต่คนดีๆ ไง ความดีงาม มีสติมีปัญญามากน้อยแค่ไหน สร้างแต่ประโยชน์ได้ขึ้นมาไง
แล้วถ้าใครจะบอกโง่ ก็เรื่องของมึง
มีคนพูดมาก แล้วก็พยายามติเตียนมาก ไปหาหลวงตา หลวงตาบอก ตบปากมัน มันปากสกปรก ปากสกปรกคือปากกิเลส คนมีกิเลสมันพูดตามจินตนาการของมัน มันพูดแต่การเอารัดเอาเปรียบของมัน มันพูดด้วยเล่ห์ด้วยกลของมัน
แต่เราเชื่อปากสะอาด ปากขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเรื่องอริยสัจ เรื่องศีล เรื่องสมาธิ เรื่องปัญญา เราเชื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ถ้าเราทำคุณงามความดีแล้วใครจะติใครจะเตียน นั่นมันเรื่องของเขา อย่าไปเชื่อปากสกปรก ปากสกปรกมันชักนำเราไปแต่ทางให้เสียหาย แต่ปากที่ดีงามจะทำให้เราที่ดีงาม แต่เพราะมันไม่รู้ มันไม่เข้าใจ มันคิดว่าสิ่งนั้นเป็นความสุขของมันๆ
ความสุขในโลกนี้หาไม่เจอ มันแค่เหยื่อล่อ
โมฆบุรุษ ตายเพราะลาภ มีลาภ มีสักการะ มีสรรเสริญ โอ้โฮ! ยอดเยี่ยมๆ พอเขากลับหมดนะ นั่งคอตกอยู่คนเดียว
แต่ถ้ามันทำใจของมันมีความสุขขึ้นมาได้นะ สิ่งนี้มันวัดกันที่นี่ ถ้ามันสงบสงัดนะ สงบสงัด มันชอบในความสงบนั้น
ในป่าในเขามันเป็นธรรมชาติ แล้วถ้าเป็นธรรมชาตินะ ถ้ามันเป็นความจริงขึ้นมานะ โอ้โฮ! วิมาน มีความสุขมาก แต่เวลาไปในสังคม เราต้องมีมารยาท เราต้องมีมารยาทสังคม
สิ่งที่สังคมเขาทำอยู่มันไม่ผิดหรอก มันต้องทำอย่างนั้น เพราะอะไร เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม สังคมเราต้องอยู่ด้วยกัน เราต้องพึ่งพาอาศัยกัน แต่เราต้องมีสติปัญญาของเราไง นั่นมันเรื่องของสังคม เรื่องของชีวิตไง
แต่ศาสนาสอนถึงการไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย สอนถึงการพ้นทุกข์ สอนให้เรารู้จักตัวเราเอง ถ้าจิตสงบแล้วทุกคนจะรู้จักตัวเราเอง พอรู้จักตัวเราเอง อ๋อ! เราอยู่ที่นี่ไง เราพยายามแสวงหา แต่ทำได้ยาก
คำว่า “ทำได้ยาก” เพราะอะไร สถานะของมนุษย์มันเป็นสมมุติ สมมุติบัญญัติ เราเกิดอย่างนี้ ทางวิชาการเป็นสมมุติบัญญัติ แล้วถ้าเป็นความจริงๆ ขึ้นมา มันจะวิมุตติในหัวใจ แล้ววิมุตติในหัวใจ มันเป็นปัจจัตตัง เป็นสันทิฏฐิโก
เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยไปหาหมอ หมอมันฉีดยาให้ถึงหายนะ เวลาจะภาวนา ธรรมะในหัวใจมันแก้ไขในหัวใจนั้น ไม่มีใครทำให้ได้
เวลาคนดื้อนะ เวลาคำว่า “ติดๆ” ไง เวลาดื้อ เวลาติดนะ พนักงานเปลมันหามไปเลย แต่ถ้าใจมันติดนะ เหมือนลูกกับพ่อแม่ไง “พ่อแม่ไม่รัก พ่อแม่ไม่รัก” มันติดอยู่คำนั้นนะ แล้วมันก็จะมองพ่อแม่ไปอีกรูปแบบหนึ่ง
แต่ถ้าหัวใจมันไม่ติดนะ พ่อแม่คนไหนไม่รักลูก พ่อแม่คนไหนบ้าง ความรักที่สะอาดบริสุทธิ์ที่ไม่มีอามิสเลยคือความรักของพ่อของแม่เท่านั้น แล้วถ้ามันเป็นอย่างนั้นนะ แต่ทำไมกิเลสมันคิดอย่างนั้นล่ะ ถ้ามันคิดอย่างนั้นขึ้นมาแล้วมันติด แก้ได้ไหม
เราอยู่นี่เราได้ฟังลูกศิษย์เยอะแยะ มันน้อยใจเพราะพ่อแม่ไม่รักๆ เยอะมาก
เราบอก แล้วมันจริงไหม
เขาบอกเมื่อก่อนก็คิดอย่างนั้นจริงๆ เดี๋ยวนี้คิดได้แล้ว มันเป็นไปไม่ได้หรอก พ่อแม่รักลูกทุกคน แต่ลูกทุกคนมันมีสูงมีต่ำ คำว่า “มีสูงมีต่ำ” คือเชาวน์ปัญญา ถ้าเชาวน์ปัญญาของลูกคนไหนที่มันด้อยนะ พ่อแม่จะห่วงคนนั้นมากที่สุด ถ้าพ่อแม่ห่วงคนนั้นมากที่สุดก็ต้องพยายามจะแก้ไขลูกคนนั้น พอแก้ไขลูกคนนั้น ไอ้ทั้งหมดก็บอกว่ารักคนนั้นน่ะ รักคนนั้น
ไม่ใช่ เขาพยายามจะทำให้คนนั้นดีขึ้นมา แต่ของเรามันดีอยู่แล้ว เราดีอยู่แล้ว แต่อยากให้เขามาโอ๋ แล้วมันก็ฝังใจ
เวลากิเลสมันติดนะ เวลาครูบาอาจารย์ท่านจะแก้ไง พอเวลามันติดแล้วมันพูดอยู่ข้างนอก เวลาทางโลกเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา หมอฉีดยา พวกจิตเภทเขาเอายากด นอนหลับหมดน่ะ มันดิ้นมาขนาดไหน ปุ๊! จบเลย
แต่หัวใจ ใครจะแก้
เวลาในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านพูด ในทางตะวันตกนะ เจ็บไข้ได้ป่วยเขาไปหาจิตแพทย์ แต่ในหลวงบอกเลย เมืองไทยประเสริฐมาก มีพระที่เป็นจิตแพทย์ พระแก้ไขหัวใจของคน ถ้าคนไว้เนื้อเชื่อใจ
แต่ในสังคมทุกสังคมมีทั้งคนดีและคนชั่ว ในสังคมทุกสังคมมีดีและชั่ว ให้คัดให้เลือก ให้แยกให้แยะ อย่าเชื่อใคร ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กาลามาสูตร ไม่ให้เชื่อ
ศรัทธาความเชื่อคือเราพยายามศึกษาค้นคว้า เวลาปฏิบัติ กาลามสูตร ไม่ให้เชื่อ ไม่ให้คนชักนำไป ต้องพิจารณาเปรียบเทียบด้วยเหตุด้วยผล มันไว้ใจได้หรือไว้ใจไม่ได้
นี่พูดถึงจิตแพทย์ๆ เวลาจิตแพทย์นะ นี่ไง สายบุญสายกรรมไง สายบุญสายกรรมมันเกี่ยวพันกัน มันเป็นบุญกุศล นี่เกาะชายผ้าเหลืองๆ
ผ้าเหลืองอยู่ตลาดมากมายเลย มันไม่ไปเกาะนู่นน่ะ แต่เพราะมันไม่มีสายเลือดไง มันไม่มีสายบุญสายกรรมที่จะกระเทือนถึงกิเลส กระเทือนถึงความรู้สึก กระเทือนถึงบุญกุศลของคนไง
เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนาจะรื้อสัตว์ขนสัตว์ไง ขนสัตว์ที่หัวใจของสัตว์โลก เอวัง