เทศน์เช้า วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๒
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ตั้งใจฟังธรรมะ ตั้งใจฟังธรรม ตั้งใจฟังธรรม สัจธรรมเป็นสิ่งที่เราแสวงหา เราปรารถนา
สัจจะ อริยสัจจะ
สัจจะ เห็นไหม สัจจะทางโลก ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ใครทำคุณงามความดีมากน้อยขนาดไหนมันเป็นความดีในใจของตน แต่มันอยู่ที่วาสนานะ ถ้าวาสนาของคน ใจของคนที่เป็นธรรมๆ ทำแล้วมันภูมิใจ แต่จิตใจของคนที่ไม่เป็นธรรม เราก็ตะเกียกตะกายไง จิตใจของคนที่ยังไม่เป็นธรรมตะเกียกตะกาย เพราะจิตใจกิเลสตัณหาความทะยานอยากมันบีบคั้นหัวใจของตน
เวลาบีบคั้นหัวใจของตน ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เราก็ทำคุณงามความดี เราก็ทำคุณงามความดี มันเรียกร้องของมันอย่างนั้นน่ะ แต่จิตใจของคนถ้ามีคุณธรรมนะ ทำดีทำชั่ว เรารู้อยู่ในใจของเรา เราพยายามทำคุณงามความดีของเรา
วันนี้วันสำคัญของชาติ เป็นวันหยุด วันสำคัญของชาติ วันที่พระปิยมหาราชสิ้นพระชนม์ วันสวรรคต ผู้ที่ทำคุณงามความดีไว้กับชาติ ผู้ที่ทำคุณงามความดีไว้กับชาตินะ เขาปกป้องคุ้มครองชาติให้ปลอดภัยจากการล่าอาณานิคมต่างๆ
ไปดูสภาพแวดล้อมนะ ในชาติต่างๆ ล้อมเมืองไทย ไปดูคุกลับเขาสิ คุกลับของเขามันมีคนที่มีศักดิ์ศรีไง ไม่ยอมลงในการเป็นขี้ข้าไง เขาจับไปขัง เขาจับไปทรมาน เขาจับไปทำลาย ทำลายล้าง ไอ้คนที่อยู่กับเขาก็ต้องเสียภาษีอยู่ในบ้านของตนไง ถ้าอยู่ในบ้านของตน เห็นไหม
เขาบอกว่า สิ่งที่ผู้คุ้มครองดูแลมาไม่มีบุญคุณๆ
นั่นเป็นความเห็นของคนที่จิตใจเป็นโลกๆ เป็นวิทยาศาสตร์ จะบอกจิตใจต่ำนะ จิตใจต่ำ จิตใจต่ำ
เวลาจิตใจที่สูงนะ เกิดบนแผ่นดินนี้ควรตอบแทนบุญคุณแผ่นดินนี้
เวลาเราเกิด เราเกิดมาจากพ่อจากแม่ เกิดในประเทศอันสมควร พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของเรา พ่อแม่ให้ชีวิตนี้มา เราเนรคุณพ่อแม่ได้ไหม เราไม่ควรเนรคุณพ่อแม่ของเรา เห็นไหม กตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี
เราเกิดบนชาตินี้ เราใช้ชีวิตบนแผ่นดินนี้ เราทำคุณงามความดีบนแผ่นดินนี้ไง
เวลาหลวงตาท่านกู้ชาติๆ การกู้ชาติ ไม่เป็นทาสของใครไง กู้ชาติกู้แผ่นดินนี้มาไง
คนที่จิตใจมันต่ำทรามบอกว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ๆ กิจของสงฆ์ให้หลับหูหลับตาให้ภาวนาไป
เวลาหลับหูหลับตาให้ภาวนาไป ภาวนาไปเพื่ออะไรล่ะ
เวลาภาวนาไป พระกรรมฐาน เวลาครูบาอาจารย์ของเรา ชาติมีวิกฤติต่างๆ เขาออกมากอบกู้ ออกมาช่วยเหลือ ออกมาเจือจาน ครูบาอาจารย์ที่เป็นธรรมๆ ดูสิ เวลาพระมหากษัตริย์ เวลามีความทุกข์ในใจของตนไง ความทุกข์ในใจของตน มีครูบาอาจารย์ที่เป็นธรรม ปลอบประโลม เอาธรรมนี้ชโลมในหัวใจ ผู้นำที่ดี ผู้นำที่ดีเพื่อเป็นประโยชน์กับชาติ
นี่พูดถึงว่าวันนี้วันสำคัญของชาติ นี่พูดถึงวันสำคัญของชาตินะ แล้วชาตินี้ การปกครองๆ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เวลาวันสำคัญในวันวิสาขบูชาไง วันเกิดขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นวันตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพาน
วันวิสาขบูชา ๒,๐๐๐ กว่าปีมาแล้ว แต่ชาติไทย ๗๐๐–๘๐๐ ปี ล่มสลายมาแล้วไม่รู้กี่รอบ การล่มสลายมาต่างๆ ฟื้นฟูมาๆ ไปดูในชมพูทวีปเวลาเขาขุดค้นทางประวัติศาสตร์ ๒,๐๐๐ กว่าปีน่ะ ๒,๐๐๐ กว่าปี เวลาล่มสลายไป เวลาแผ่นดินไหวเขาก็สร้างใหม่ขึ้นมาทับที่เก่านั้นๆ ทับที่เก่านั้นนะ
เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดดั่งเม็ดหินเม็ดทราย มันยังมีมามหาศาล มาตรัสรู้ธรรมๆ เพื่ออะไร นี่ไง เพื่อหัวใจของสัตว์โลกไง
เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม ปรารถนารื้อสัตว์ขนสัตว์ รื้อสัตว์ขนสัตว์ก็รื้อสัตว์ในหัวใจของเรานี่แหละ ถ้ารื้อสัตว์ขนสัตว์ในหัวใจของเรา คนเราเกิดมามีกายกับใจไง เวลามีกายกับใจ จิตใจที่มันมืดบอดไง มันเป็นวิทยาศาสตร์ไง มันก็เห็นได้แค่ธาตุ เห็นได้แค่วัตถุธาตุไง แล้วบอกนี่ไปยึดติด
ไปยึดติดอะไร โยนทิ้งมันก็ได้ คนจนในบ้านไม่มีหรอก ทรัพย์สมบัติในบ้านคนจน ในบ้านเรามีมากน้อยขนาดไหน ไอ้คนร่ำรวย โอ้โฮ! ทรัพย์สมบัติมหาศาลเลย ใครติด ติดตรงไหน นี่ไง เวลาติดของเราก็เป็นลิขสิทธิ์ไง ถ้าโจรมันปล้นมันก็หยิบฉวยไป มันว่าเป็นของมัน
เวลาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องหัวใจ เห็นไหม ดูสิ เวลาหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านสอนของท่านไง มีข้อวัตรปฏิบัติ เครื่องอยู่ของใจๆ
คำว่า “เครื่องอยู่ของใจ” นี่ไง เวลาพระเราจะห่มผ้า ปฏิสังขาโยฯ นี่อยู่กับอะไร ถ้ามันมีสติสัมปชัญญะ ห่มผ้าแล้วก็สวยงาม ถ้ามันไม่มีสติสัมปชัญญะมันก็ห่มสักแต่ว่าห่มไง ดูสิ ดูหนังดูละครเขาก็ห่มเหมือนกัน เวลาเขาเล่นหลวงตาๆ เขาก็ห่มผ้าเหลืองเหมือนกัน ห่มผ้าเหลือง ห่มผ้าเหลืองแบบโลกๆ ไง
แต่เวลาห่มผ้าปฏิสังขาโยนะ มีสติสัมปชัญญะไง นี่เวลาเป็นเครื่องอยู่ของใจไง ใจมันเกิดขึ้น หัวใจมันมีคุณค่าๆ ไง
นี่ไง ถ้าเป็นวันสำคัญของชาติ ผู้ที่มีบุญมีคุณกับชาติเขาปกป้องรักษามา รักษามาให้เป็นประเพณีวัฒนธรรมสืบทอดต่อมา
นี่เขาบอก “ไม่มีบุญคุณๆ” คนจิตใจนะ “เขาทำเพื่อตัวเขาเอง”
จะทำเพื่อตัวเองหรือทำเพื่อส่วนรวม ถ้าเขาทำเป็นประโยชน์มันก็เป็นประโยชน์วันยังค่ำ นี่คำว่า “เป็นประโยชน์” ไง แต่คนที่จิตใจที่เป็นธรรมๆ เห็นแล้วมันสะเทือนใจ เห็นแล้วมันทราบซึ้งใจไง นี่จิตใจของคนที่สูงที่ต่ำ เห็นไหม
คำว่า “ที่สูงที่ต่ำ” ขึ้นมา ทุกคนมีการศึกษามาก็ว่าตัวเองมีปัญญา ปัญญาในวิชาชีพแล้วกิเลสมันก็หลอกใช้ เวลากิเลสมันหลอกใช้ มันหลอกใช้เพื่อตัวตนของมันไง
แต่เวลาคนที่เป็นธรรมๆ นะ มีคนที่เป็นธรรมมากมายมหาศาลปิดทองหลังพระๆ เขาทำคุณงามความดีของเขาเพื่อทำคุณงามความดีทิ้งเหว ไม่ให้ใครรู้ไม่ให้ใครเห็นด้วย เขาทำเพื่อประโยชน์กับเขา แต่กิตติศัพท์กิตติคุณไง กลิ่นของศีลกลิ่นของธรรมมันหอมทวนลม มันปิดไว้ไม่อยู่หรอก มันปิดไว้ไม่ได้ แต่จิตใจเขาสูงส่งไง เขาไม่ตะเกียกตะกาย ไม่ทะเยอทะยาน ทำความดีที่ไหนก็ได้
ในรถยนต์คันหนึ่ง ส่วนประกอบของอะไหล่รถยนต์กว่าจะเป็นทั้งคัน สายไฟสำคัญมากเลย ไฟมันชอร์ต เครื่องติดไม่ได้หรอก ไอ้สายไฟ ไอ้ของเล็กๆ น้อยๆ บนรถยนต์คันหนึ่งน่ะ มันมีประโยชน์นะ แล้วประโยชน์ให้รถทั้งคันแล่นไปได้นะ
นี่ก็เหมือนกัน เราจะทำคุณงามความดีของเรา เราจะเป็นอะไรก็ได้ เราจะเป็นส่วนไหนของรถยนต์ก็ได้ เราทำเพื่อประโยชน์กับชาติ ประโยชน์กับรถยนต์คันนั้น แต่เราก็อาศัยอยู่ในชาตินั้นไง เราก็เป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์คันนั้นไง รถยนต์คันนั้นจะไปถึงเป้าหมาย ไม่ถึงเป้าหมาย รถยนต์ก็พากันไปไง แต่เราเป็นส่วนหนึ่งๆ ไง
นี่ไม่อย่างนั้นน่ะ เหยียบย่ำทำลายกันตลอดเพื่อความชิงดีชิงชั่ว ชิงดีชิงชั่วมันเป็นประโยชน์อะไรขึ้นมา แต่เวลาถ้าเป็นธรรมๆ ขึ้นมา มันไม่มีการชิงดีชิงชั่วหรอก มันมีสติสัมปชัญญะของมัน มันอยู่ที่อำนาจวาสนา
เวลาครูบาอาจารย์ของเรา มันเป็นวาสนาของคนๆ ใครทำสิ่งใดมา สิ่งนั้นมันก็จะสมความปรารถนาของเขา ถ้าคนทำสิ่งใดมาเขาไม่สนใจอำนาจวาสนาเขาเลย เขาโยนทิ้งไป เขาตื่นเต้นไปกับโลก มีมากมายมหาศาล ตื่นเต้นไปกับโลก ตื่นเต้นไปกับโลกนะ
วันสำคัญของชาติ วันปิยมหาราช ท่านทำคุณงามความดีไว้ ร้อยกว่าปีแล้วคนก็ยังระลึกถึงๆ ความระลึกถึง มันเป็นแก่นกลางไง
คำว่า “ชาติ ชาติ ชาติ” ชาติมันคืออะไร อากาศไง
แต่คนถ้ามารวมกันด้วยอุดมการณ์ ด้วยคุณงามความดี แล้วคนที่เขามาเกาะอาศัย เห็นไหม ธรรมดาในสังคมทุกสังคมมีคนดีและคนชั่ว เวลาคนชั่วมันทิ่มมันตำของมันตามประสาของมัน เวลาคนที่เขาเป็นความจริงนะ เขาเสียสละ
ในวงการทหารเขาเสียสละชีพ เขาเสียสละของเขา เขาเสียสละเพื่อคนที่นอนอยู่เมืองหลวง คนที่นอนอยู่ในสังคมนอนหลับสบาย แต่ของเขา เขาเผชิญภัยไว้ให้ นี่พูดถึงว่าเวลาเขาสละชีพของเขา
แต่ในสังคมทุกสังคมมีคนดีและคนชั่ว ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นคนดีไปหมด คนต้องมีสติปัญญา เห็นไหม ปัญญาต้มแกงกินไม่ได้ หลวงตาท่านสอนประจำ
ปัญญาต้มแกงกินไม่ได้ ปัญญาเอามาเท่าทันกิเลสในใจของตน
กิเลสในใจของตนที่มันกระเพื่อม ที่มันสั่นไหวในหัวใจ อันนี้สำคัญที่สุด พระพุทธศาสนาสอน สอนมาที่นี่ไง เวลาภาวนามยปัญญา ปัญญาเกิดจากการภาวนา ถ้าเกิดจากการภาวนา เวลาหลับหูหลับตาไปแล้ว คนที่ไม่มีอำนาจวาสนามันจะเป็นสิ่งใด
แต่ถ้ามันเป็นสัจจะความจริงขึ้นมา พอหลับหูหลับตาขึ้นไปแล้วมันไปเห็น ผู้ใดทำความสงบของใจเข้ามา มันจะมีบ้านเรือนที่อยู่ที่อาศัยของใจ ใจที่มันมีบ้านมีเรือนที่อยู่อาศัยของใจ นี่สิ่งที่ทุกคนปรารถนา ปรารถนาสิ้นจากทุกข์ไง
เวลาสิ้นจากทุกข์ ทุกข์ในหัวใจที่มันบีบคั้นขึ้นมา ถ้ามันสงบระงับเข้ามา นี่ไง การชนะกิเลสชั่วคราวๆ ไง สมาธิคือของชั่วคราวทั้งสิ้น เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป มันเป็นสมาธิๆ
แต่คนที่มันไม่มีเลยน่ะ มันมีแต่ชื่อ “สมาธิๆ สมาธิทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ ไม่มีความจำเป็น มีแต่ปัญญา”
ปัญญาอะไร
การสั่งสอนอบรมอย่างนั้นมันเป็นสัญญาทั้งสิ้น มันเป็นเรื่องโลกๆ ทั้งสิ้น มันวิเคราะห์วิจัยกันได้แต่วัตถุธาตุเท่านั้น นามธรรมๆ มันถึงไม่รู้จักใจของตน ทำสมาธิไม่เป็น แล้วแสวงหากิเลส กิเลสเป็นอย่างไรก็ไม่รู้จัก แล้วเวลากิเลสมันอาย กิเลสมันเคารพ กิเลสมันเคารพคนถือศีลธรรมนะ มันไม่เข้ามาใกล้หรอก มันอายแล้วมันหลบไปเลย แล้วกิเลสมันจะหายไปเลย...ไร้สาระ นี่วาสนาของคนๆ ไง
ถ้าวาสนาของคน กาลามสูตร ไม่ให้เชื่อๆ ไม่ต้องไปเชื่อ พิสูจน์ได้ทั้งสิ้นน่ะ
“เมื่อก่อนเป็นคนขี้เหล้าเมายา เดี๋ยวนี้หายหมดแล้ว หายหมดแล้ว”
คนที่สำนึกได้ เขาไปอดเหล้า เขาไปอดบุหรี่กันน่ะ ตามโรงพยาบาลเยอะแยะไปหมด ใครๆ เขาก็รู้ก็เห็นทั้งสิ้น เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสุขภาพ สุขภาพกาย สุขภาพจิต ถ้าสุขภาพจิตที่มันแข็งแรงขึ้นมานะ ถ้าทำสัมมาสมาธิได้ ถ้ามีสติปัญญาขึ้นมานะ มันสังเวช มันสังเวชแท้ๆ เลยนะ มันสังเวชนะ ทำไมจิตเราโง่ได้ขนาดนี้ จิตเราโง่ได้ขนาดนี้ แล้วนี่ไปอหังการอยู่นะว่าตัวเองกิเลสมันอายไป กิเลสมันไม่มี กิเลสมันสูญสิ้นไป ไร้สาระ
กาลามสูตร ไม่ให้เชื่อ ไม่ให้เชื่อ เวลาไม่ให้เชื่อ นี่ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ถ้าวันสำคัญๆ น่ะ วันสำคัญนะ เวลาวันพระ วันโกนขึ้นมา พระกรรมฐานเรานั่งสว่าง นั่งตลอดรุ่งเลย เผชิญหน้ากับกิเลส แล้วบอกว่าไม่เคยเห็นๆ
ไม่เคยเห็น นั่งตลอดรุ่งสิ เวลานั่งตลอดรุ่งขึ้นมาก็บอกว่านั่งหลับกันไป ต่างๆ ไป ไอ้นั่นก็ไม่ได้เรื่อง
เวลาเรานั่งแล้ว เวลาเข้าสมาธิแล้วออกสมาธิมันมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ตลอดเวลา ถ้ามีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ตลอดเวลา มันรู้มันเห็นสิ่งใดนี่มหัศจรรย์ พอมหัศจรรย์นะ พอมันกระเทือนหัวใจ มันกระเทือนกิเลส
เวลากิเลสมันโดนกระเทือน กิเลสมันหลบมันหลีก กิเลสมันพลิกมันแพลง มันปลิ้นมันปล้อน มันหลอกมันลวง เวลาเผชิญหน้ากัน สงครามธาตุ สงครามขันธ์ ระหว่างธรรมะกับกิเลสมันประหัตประหารกัน กิเลสมันต่อสู้กัน
นี่ไม่มี เพ้อเจ้อ บ่นพร่ำรำพึงไปเรื่อย มันเป็นอย่างนั้นๆ มันเป็นไง มันเป็นน่ะ มันกับเรา
ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ของใครทั้งสิ้น แต่เวลาเป็นจริงๆ เวลาหลวงปู่มั่นท่านตรัสรู้ธรรมขึ้นมา ท่านบอกเลยนะ มีครูบาอาจารย์สมัยพุทธกาลมาอนุโมทนาเลย เขารู้เขาเห็นกันนะ เขารู้เขาเห็นกัน เขาไม่มีแบ่งแยก
นี่เวลาว่านิพพานยังมีสุขาวดี ยังสูงกว่านิพพาน นิพพานแล้วยังแก้ไข นิพพานยังต่อยอดกันไป
อันนี้เป็นความเชื่อของมหายาน เป็นความเชื่อของมหายาน แต่ถ้าเป็นเถรวาทไม่มีหรอก ไม่มีเป็นอย่างนั้น เป็นไปไม่ได้ มันขัดมันแย้งไง
กาลามสูตร เชื่อทำไม ในกาลามสูตรมันแย้งอยู่แล้ว นี่ไง ธรรมและวินัยเป็นศาสดาของเธอ ไอ้นี่พระไตรปิฎกมันบังธรรมะแล้วล่ะ จะพูดสิ่งใด ทำสิ่งใดก็ชี้เข้าไปที่นั่นหมดน่ะ อ้างอิงว่ามันเป็นจริงๆ ไง เป็นจริง มันเป็นจริงมาจากไหน
เวลามันเป็นจริงมันต้องเป็นจริงในหัวใจของเราสิ นี่ไง ถ้ามันเป็นปัจจัตตัง เป็นสันทิฏฐิโก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้สันทิฏฐิโกเลย ไม่มีกาลไม่มีเวลา เธอจงเรียกร้องสัตว์ทั้งหลายมาดูธรรม มาดูสัจธรรมในหัวใจดวงนี้ เยาะเย้ยมารเลย “มารเอย เธอเกิดจากความดำริของเรา”
ไอ้นี่ที่พูดออกมานั่นคืออะไรน่ะ ดำริทั้งนั้นน่ะ พูดออกมาอ้าปากก็จบสิ้นแล้ว
แต่เวลาครูบาอาจารย์ของเรา ธรรมเป็นธรรม แต่เวลาข้อวัตรปฏิบัติขึ้นมาท่านพยายาม ธรรมทายาทๆ
ในการประพฤติปฏิบัตินะ งานสิ่งใดที่ทำมาทางโลกแสนทุกข์แสนยากทั้งสิ้น ทำมาด้วยอำนาจวาสนาของตน ถ้าใครมีคุณงามความดีทำประสบความสำเร็จนั้นก็บุญกุศลของเขา แต่ก็ต้องมีสติปัญญารักษาสิ่งนั้นไป การซ่อมแซม การบำรุงรักษา การดูแลรักษา รู้จักประหยัดมัธยัสถ์ เขาจะทำให้ครอบครัวเขาเจริญงอกงามขึ้นไป ถ้าทำไปด้วยความขาดสติ ทำไปด้วยความพลั้งเผลอ สิ่งนั้นจะขาดตกบกพร่อง แล้วคนที่มันติดในอบายภูมิ อบายมุขต่างๆ นั่นมันกรรมของสัตว์ไง
เวลาเราละจากสิ่งนั้นมา เวลาถือศีล มีศีลมีธรรม เพราะกิเลสมันเป็นนามธรรม แล้วสิ่งใดที่ไปโต้ตอบกับมัน เรายังอ่อนแออยู่ ไม่สามารถจะชำระล้างกิเลสได้ เราก็พยายามถือศีล ถือศีลด้วยความเคร่งครัดของเรา ถือศีลด้วยอุดมการณ์ของเรา ถ้ามันผิดพลาดสิ่งใดไป เราก็ต่อศีลของเรา เราก็เจตนาวิรัติของเราขึ้นมาใหม่ให้หัวใจมันเข้มแข็งขึ้นมา
พอหัวใจเข้มแข็งขึ้นมา เวลามันถือศีลแล้ว เวลาทำความสงบของใจเข้ามามันมีหลักการของมันแล้ว ถ้าหัวใจมันสงบเข้ามา หัวใจมันสงบเข้ามา หัวใจมันสงบเข้ามามันมหัศจรรย์ในตัวมันเอง ถ้ามหัศจรรย์ในตัวมันเอง เห็นไหม
เวลาเราปากกัดตีนถีบอยู่กับโลก เราทุกข์เรายากอยู่กับการเลี้ยงชีพ แต่เวลาเราจะเลี้ยงหัวใจของเรา เลี้ยงหัวใจของเราเอาอะไรไปเลี้ยงมัน
สติปัญญา มีคำบริกรรมของเรา มีอานาปานสติของเรา ถ้ามีจิตรักษารักษาคำบริกรรม นวกรรม มีการกระทำ จิตใจมันมีการเคลื่อนไหวของมัน เคลื่อนไหวเพื่อให้หยุดนิ่ง พอเคลื่อนไหวให้หยุดนิ่ง มันหยุดนิ่งของมันได้ เห็นไหม
วันสำคัญของชาติ ชาติคือชาติไทย ภพชาติของเราคือหัวใจ ภพชาติ จิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะมันรู้ นี่ไง ที่มันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ อ๋อ! เวลาครูบาอาจารย์ท่านบอกจิตไม่เคยตายๆ
ความรู้สึกอันนี้ไม่เคยตาย แต่อารมณ์ตาย อารมณ์น่ะ เวลามันทุกข์มันยาก มันเจ็บมันป่วย มันไม่อยากได้อารมณ์นี้เลย เวลามันสุข มันทุกข์ มันอยากให้อารมณ์นี้อยู่กับมันตลอดไป
อารมณ์เกิดจากจิต สิ่งมีชีวิตมันเกิดมีอารมณ์ อารมณ์ความรู้สึก เกิด ตาย เกิด ตาย เกิด ตาย แต่จิตนี้ไม่เคยตาย แล้วไม่เคยตายเคยรู้ไหม ไม่มีใครรู้ ทำสมาธิไม่เป็น พอทำสมาธิเป็น อ๋อ! ทำสมาธิเป็น โอ้! เลย นี่ภพชาติของเรา
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มนุษย์ไปอยู่ในชุมชนใดก็แล้วแต่ รวมกันขึ้นมาตั้งเป็นแว่นแคว้น เป็นชาติ เป็นเขตแดนในโลกนี้ โลกสมมุติ โลกธาตุ
โลกุตตรธรรมๆ เวลามันเกิด มันเกิดบนจิตดวงนั้นน่ะ มันมหัศจรรย์ของมันนะ เวลาทำเป็นไปแล้ว กราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยหัวใจทั้งสิ้น
ไอ้นี่เก้อๆ เขินๆ ครึ่งๆ กลางๆ จะกราบก็ว่าไม่ใช่ ไอ้ว่าจะไม่ใช่ก็ว่าจะใช่ ไอ้ว่าไม่ใช่พุทธก็ว่าจะเป็นพุทธ ไอ้ว่าจะเป็นพุทธหรือมันก็ว่าจะเป็นผี ผีบุญ มันกลายเป็นผีไปเลยนะ อ้างพระพุทธเจ้าตลอดนะ
เวลามันลงใจ เวลาครูบาอาจารย์ของเรากราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นะ เวลาพระที่เป็นธรรมๆ เวลากราบพระนี่ แหม! มันกราบจากหัวใจ คือหัวใจมันกราบออกมาจากความรู้สึกอันนั้นนะ
ไอ้ของเรานี่ไปปัดฝุ่น พับๆๆ! กราบพระๆ กราบไม่เหมือนกัน เพราะมันออกมาจากใจดวงนั้น ถ้าใจดวงนั้นเป็นธรรมๆ นะ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ไปที่ไหนมันก็เป็นธรรมวันยังค่ำ
แต่ถ้าไม่ใช่ธรรมนะ จะอวดอ้างขนาดไหนมันก็ไม่ใช่ มันไม่ใช่ตอนแสดงออกนี่แหละ มันขัดมันแย้ง งูก็ไม่ใช่ ปลาก็ไม่เชิง งูๆ ปลาๆ แต่ของเรา เรามีกิเลสตัณหาความทะยานอยาก เราก็ยอมรับ เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ชั่ว ถ้าเดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ชั่ว เราพยายามมีทาน มีศีล มีภาวนา
วันนี้วันปิยมหาราช ผู้มีบุญองค์หนึ่งคุ้มครองชาติไว้ให้อนุชนรุ่นหลังสืบทอดมาถึงเรา เราได้มาเกิดบนแผ่นดินนี้ แผ่นดินของพระพุทธศาสนา พระเจ้าตากฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ กู้ชาติเพื่อถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ถ้ากู้ชาติมาเพื่อถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วสืบทอดมาถึงเรา เราเกิดบนชาตินี้ เกิดบนประเทศนี้ เราจะสร้างคุณงามความดีของเรา จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ เราไม่ทิ่มไม่ตำ ไม่บ่อนทำลาย ไม่ตอกลิ่ม ไม่ให้มันเกิดการสั่นสะเทือน แล้วเราก็เข้ามาดูหัวใจของเรา มันยอมรับไหม ถ้ามันยอมรับหรือมันเป็นจริงขึ้นมา เรามีสติปัญญาขึ้นมารักษาหัวใจของเรา
ภพชาติ สิ่งที่เราเกิดบนชาตินี้เพื่ออาศัย จิตใจของเราที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะมีอำนาจวาสนาเกิดในประเทศอันสมควร เกิดในประเทศที่เป็นพระพุทธศาสนา แล้วเราก็พยายามจะประพฤติปฏิบัติขึ้นมาให้หัวใจของเราเป็นพุทธะ
ทำสัมมาสมาธิ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นพุทธะ แล้วเกิดภาวนามยปัญญา ปัญญาการแก้ไขกิเลส ชำระล้างกิเลส ทำลายภพชาติของส่วนตัวของเรา ทำลายภพชาติเรานะ ทำลายภพ ทำลายชาติ รื้อภพรื้อชาติกลางหัวใจนี้ มันถึงจะเห็นสัจธรรมตามความเป็นจริง มันยิ่งเคารพพระพุทธเจ้ามหาศาล มหาศาล มันไม่มีทางบิดเบือนอะไรไปได้เลย ความจริงเป็นความจริงวันยังค่ำ
ไอ้งูๆ ปลาๆ เดี๋ยวใช่ เดี๋ยวไม่ใช่ ชักเข้าชักออกน่ะ ผีบุญ เอวัง