เทศน์เช้า วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๒
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ตั้งใจฟังธรรมะนะ วันนี้วันพระ วันพระ วันโกนเป็นวันทำบุญกุศลของชาวพุทธ ถ้าชาวพุทธที่มีสติมีปัญญา ถ้าชาวพุทธ ชาวพุทธของเราพุทธที่ทะเบียนบ้าน
ต้องไปประเทศอื่นนะ ไปประเทศพม่าเขาจะมีตู้บริจาค เงินเขาเก็บสะสมบริจาคไว้ล้นตู้เลย ไม่มีใครไปแตะ นั่นไง เพราะอะไร เพราะวัฒนธรรมของเขา เขาเข้าถึงของเขา
มีเวลาคนไปทำธุรกิจที่พม่า พม่านิมนต์พระมาบ้านนะ จะไปงานอะไรเรียบง่าย ไม่เจ้าขุนมูลนาย ถ้าเป็นเจ้าขุนมูลนายนี่ขุนนาง พระขุนนางๆ ไง พระขุนนางต้องเป็นแบบเลอเลิศ
แต่ถ้าเป็นวันพระๆ พระเป็นผู้ประเสริฐ ประเสริฐมาจากไหน ประเสริฐมาจากในหัวใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประเสริฐมาจากหัวใจของครูบาอาจารย์ของเรา
เวลาครูบาอาจารย์ของเราเวลาท่านประพฤติปฏิบัติมานะ ท่านเห็นคุณค่าของหัวใจนี้ยิ่งใหญ่ ถ้าคุณค่าของหัวใจยิ่งใหญ่ สิ่งที่ระลึกถึงกัน สิ่งที่ทำคุณงามความดีถึงกัน เห็นไหม วันพระๆ ถ้าเป็นพระบ้าน วันนี้วันต้องทำพิธีกรรม ต้องถวายทาน ต้องขอศีล มากมายมหาศาล นั่นน่ะศาสนพิธี ศาสนพิธี ถ้ามีศาสนพิธีต่างๆ มันก็มาบังโอกาสที่เราจะประพฤติปฏิบัติ
เวลาครูบาอาจารย์ของเรานะ ท่านกันไว้ ท่านกันไว้ให้เรียบง่าย พอเรียบง่ายขึ้นมา เวลา ๒๔ ชั่วโมงให้ประพฤติปฏิบัติ เวลาอยู่บ้านอยู่เรือนของเรา เราแสวงหา เราอยากจะมีเวลาของเราเพื่อประพฤติปฏิบัติ
เพราะเราฟังธรรมๆ ไง ฟังธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสวยวิมุตติสุขๆ อยู่ในป่าในเขาของท่าน ท่านมีความสุขของท่าน หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านประพฤติปฏิบัติมา ท่านอยู่ในความสงบสงัด ท่านมีความสุขความสงบในใจของท่าน เราก็อยากมีความสุขความสงบในใจของเราเหมือนกัน ถ้าเราอยากจะมีหัวใจของเราที่มีความสุขมีความสงบอย่างนั้น เราก็พยายามจะหาเวลามาประพฤติปฏิบัติ
เวลามาประพฤติปฏิบัติที่วัดๆ เวลาไปแล้ว ไปคราวนี้จะได้สมาธิ ไปคราวนี้จะมีสติปัญญา ไปคราวนี้เราจะเกิดภาวนามยปัญญา เวลามาถึงวัดแล้วล้มลุกคลุกคลานไม่ได้อะไรเลย กิเลสมันหลอกมันปลิ้นมันปล้อนไปตลอด เห็นไหม เวลากิเลสหลอกมันปลิ้นมันปล้อนไปนั่นน่ะกิเลสทั้งนั้นน่ะ
เวลาชาวพุทธ วันนี้วันพระ วันพระไปวัดไปวาเขาต้องถวายทาน สิ่งที่ถวายทาน ถวายสงฆ์จะได้บุญมากมายมหาศาล ถวายทานเสร็จแล้วขอศีล ขอศีลแล้วต้องอาราธนาธรรมไง หลับไปแล้วตื่นขึ้นมามันยังไม่ได้ภาวนาเลย
เวลาครูบาอาจารย์เราท่านกันเวลาไว้ให้ ให้ไปวัดไปวา ให้เวลา ๒๔ ชั่วโมงได้ประพฤติปฏิบัติไง เวลาประพฤติปฏิบัติเข้าทางจงกรม นั่งสมาธิภาวนาขึ้นมามันเบื่อหน่ายไง
มีพระเคยมาอยู่กับเรานะ เขาบอกมาอยู่กับหลวงพ่อดีทุกอย่างเลย เสียอย่างเดียว เวลามันเหลือเฟือ
นี่ไง คำว่า “เวลาเหลือเฟือ” แสดงว่าเขาไม่ได้ประพฤติปฏิบัติไง วันวันหนึ่งมันมีเวลามากมายมหาศาล แต่เวลาทางโลกเขาเรียกร้องหาเวล่ำเวลาของเขา เขาไม่มีเวลาหยุดเลย เขาตรากตรำทำงานทำหน้าที่ของเขา เครียด ตึงเครียดไปหมด เวลาไปวัดไปวาขึ้นมาเราก็คาดว่ามันจะสงบ มันจะสงัด มันจะมีสติปัญญาขึ้นมา เวลาไปถึงวัด ไอ้กิเลสตัวเก่านั่นน่ะ
มีคนมากมาย เวลาเขาบอกว่าเขาอยากจะหลีกเร้นจากคนๆ ไง เวลาหลีกเร้นจากคนไป เวลาอยู่ในสังคม สังคมบีบคั้นขึ้นมามีแต่ความทุกข์ความยากทั้งนั้น อยากจะสงบสงัดไง ไปอยู่คนเดียวขึ้นมาไปคิดห่วงเขาเอง ไปอยู่ไม่ได้หรอก ต้องวิ่งกลับไปหาเขา มนุษย์เป็นสัตว์สังคม สัตว์สังคมมันกลัวของมันไง มันต้องอยู่ในสังคมนั้น มันต้องอยู่ในสังคม
เวลาสังคมเอารัดเอาเปรียบขึ้นมา เราก็ทุกข์เราก็ยากของเรา เวลาเราทุกข์เรายากขึ้นมา เขาให้มีศีล ๕ ศีล ๕ ถ้ามีศีล ๕ ขึ้นมา กฎหมายมันมาทีหลังเลยล่ะ
ธรรมและวินัยเป็นศาสดาของเรา ธรรมและวินัยของชาวพุทธๆ ธรรมและวินัยให้เรามีศีล ๕ ถ้ามีศีล ๕ ขึ้นมา ไม่ทำร้ายใครทั้งสิ้นนะ ปาณาติปาตา ต้องห้ามทำลาย ห้ามฆ่าสัตว์ เราไม่พูดให้ใครเจ็บช้ำน้ำใจทั้งสิ้น เราไม่ปลิ้นปล้อนใครทั้งสิ้น เราไม่หลอกลวงใครทั้งสิ้น
ไม่ลักทรัพย์ เจ้าของเขาไม่ให้ก็ไม่แตะแล้ว อย่าว่าแต่ลักเลย มีของมีค่าอยู่ ถ้ามีเจ้าของอยู่ เราไม่สัมผัสเลย แต่ถ้าไปวัดไปวา ไปวัดไปวาเขาต้องให้เก็บไว้ เก็บไว้เพื่อหาเจ้าของ ถ้าเจ้าของเขาไม่มาขึ้นมาแล้วให้เป็นกองกลาง ให้เป็นของของสงฆ์นั้นไป
กาเมสุมิจฉาจาร เด็กวัยรุ่นจะบอกเลย บอกว่าเป็นสิทธิของเราๆ
ไม่ใช่ เราเกิดมาจากพ่อจากแม่ มันต้องได้รับอนุญาตจากพ่อจากแม่ ต้องมีการสู่ขอ ต้องมีให้การให้เกียรติกับพ่อกับแม่
วัยรุ่น วัยรุ่นบอกสิทธิของเราๆ
สิทธิอะไรของมึง ไม่มีพ่อแม่ มึงมีชีวิตนี้มาหรือ แล้วมีชีวิตมา มึงทำให้เจ็บช้ำน้ำใจพ่อแม่มึง มึงคิดอะไรได้บ้าง นี่ไง กาเมสุมิจฉาจาร
ถ้าของมึนเมา เราไม่แตะต้อง ไม่ต้องการสิ่งใดทั้งสิ้น
แล้วมุสา เวลามุสา มุสานี่สำคัญมาก เวลาโกหกตัวเอง ไม่ต้องโกหกใครหรอก โกหกตัวเองตลอด จะทำไอ้นั่น จะทำไอ้นี่ จะเป็นคนดีนะ จะประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ได้ทำสักอย่าง โกหกไปวันๆ ผัดวันประกันพรุ่งไป
ชีวิตนี้มีการพลัดพรากเป็นที่สุด เวลามันจะพลัดพรากไป ตอนนั้นมันถึงเสียดายเวลาของเราไง เวลามีศีล ๕ เวลาพัฒนาขึ้นไปเป็นศีล ๘ ศีล ๘ ไม่กินข้าวเย็น ไม่นอนในที่สูง ไม่ฟังเพลง ไม่ดูหนังดูละคร เพื่อความเป็นพรหมจรรย์ๆ ถ้ามันพัฒนาขึ้นไง พอพัฒนาขึ้นๆ ถ้ามันสงบจริง ถ้ามันเป็นศีล ๕ ได้จริงไง
หลวงตาท่านบอกมีแต่ศูนย์ เวลาขอศีล ขยับก้นเป็นขอศีลไปทุกที่เลย แล้วไม่มีศีลในใจของตนเลย ถ้ามีในใจของตนนะ ใจมันจะสงบ ใจมันตั้งมั่นของมัน
ศีลคือความปกติของใจ ถ้าใจมันปกติขึ้นมา ถือศีล ๘ ศีล ๘ วันพระ วันโกนเขาถือศีล ๘ ของเขา ถ้าถือศีล ๘ ของเขา ไม่ฟังเพลง ไม่ดูการละเล่นฟ้อนรำ เราไม่ฟังเพลง ไม่ดูการละเล่นฟ้อนรำ แล้วเวลาก็มาเถียงกันไง เดินไปได้ยินเสียงเพลง มันจะขาดศีล ศีลจะขาดไหม จะขาดไหม
นั่นเป็นเรื่องของสังคม เรื่องของเขา เวลาจะพัฒนาขึ้น เราก็เอาสิ่งนี้มาโต้มาแย้งกันว่าของใครจะดีกว่าใคร ของใครจะดีกว่าใคร
เวลาหลวงตาท่านสอนไง เราจะไปที่ไหนก็แล้ว ที่ไหนที่เขาเป็นเสี้ยนเป็นหนาม เราหลบเราหลีกเขาไป เราหลบเราหลีกไป เราอย่าไปโต้แย้ง
เราไปโต้แย้ง เสี้ยนหนามเวลาเราย่ำไปแล้วมันตำเท้า ตำเท้า ไปนั่งที่ไหนเสี้ยนหนามมันก็ยอกหัวใจเราตลอดไปไง นี่ไง พอไปไหนก็คนโน้นติอันนี้ คนนั้นติอย่างนั้นๆ แล้วมันก็ฝังใจไปไง นี่เสี้ยนหนามมันตำใจ
พอเสี้ยนหนามมันตำใจ เราหลบหลีกไปไม่ให้เสี้ยนหนามมันตำหัวใจของเรา ไม่ให้อะไรมันเข้ามาตำในใจนี้ เราจะหลบจะหลีกของเราโดยธรรมชาติของเรา หลบหลีก หลบหลีกด้วยสติด้วยปัญญาของเรา ถ้าถือพรหมจรรย์ๆ ไง พรหมจรรย์ก็เพื่อหัวใจดวงนี้ใช่ไหม
วันนี้วันพระๆ วันพระผู้ประเสริฐ ประเสริฐที่ไหน ไปวัดไปวา ไปวัดไปวานะ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้กับใคร ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
ภิกษุ ภิกษุณีก็ยังเคารพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เคารพธรรมและวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภิกษุก็มีศีล ๒๒๗ ครอบคลุมเหมือนกัน ภิกษุก็ต้องมีสิ่งที่ควบคุม
เราก็เหมือนกัน เราเป็นชาวพุทธ เราเป็นเจ้าของบริษัท ๔ ธรรมและวินัยเป็นผู้ควบคุมเรา เป็นพินัยกรรมที่ให้ทุกคนแสวงหาคุณงามความดีในใจของตน แล้วแสวงหาคุณงามความดีในใจของตน เห็นไหม
เรามีคุณค่า คุณค่าเพราะเรายังมีสามัญสำนึก คนที่ประสบอุบัติเหตุ อารมณ์ชั่ววูบทำร้ายไปติดคุกมหาศาลเลย เวลาประมาทเลินเล่อทำให้ชีวิตนี้เสียหายไป
แต่เรายังมีสติ เห็นไหม เรามีศาสนาประจำในใจของเรา ถ้าเรามีศาสนาประจำในหัวใจของเรา เราขวนขวายของเรา ขวนขวายเพื่อหัวใจดวงนี้ ขวนขวายเพื่อคุณค่าไง มันจะมีคุณค่าขึ้นมาทันทีเลย ไม่ใช่ทิ้งๆ ขว้างๆ
หัวใจของเราใครไปทิ้งมัน ใครไปทิ้งได้ ใครจะควักหัวใจเราทิ้งไง ก็ไปโรงพยาบาลผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจไง ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจนั่นมันก็แค่ธาตุขันธ์เท่านั้นเอง แต่หัวใจของเรา หัวใจมันมาได้อย่างไร
หัวใจมันมีขึ้นมาได้ มีเจตนาที่ดี มีสัมมาทิฏฐิที่ดี ความคิดที่ดี นี่ไง มันมาจากใจๆ ไง ถ้ามาจากใจ เราขวนขวายกระทำของเรา นี่ไง เราจะดูแลหัวใจของเรา หัวใจของเราๆ เราจะดูแลมันไง เวลาดูแล ดูแลด้วยสติ ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา ถ้ามีสติ มีสมาธิ มีปัญญาขึ้นมา ของที่แสวงหามา แสวงหามาเพื่อใจดวงนี้ บุญกุศลเพื่อใจดวงนี้ไง
ร่างกายนี้มันต้องการปัจจัยเครื่องอาศัย อาหารที่ดำรงชีพไง ดำรงชีพแล้วทุกข์ๆ ยากๆ บีบคั้นใจ แต่ถ้าเรามีสติมีปัญญา เราไม่ทิ้งๆ ขว้างๆ มัน เราไม่ทิ้งๆ ขว้างๆ หัวใจดวงที่มันทุกข์มันยากนี้ไง เราแสวงหา เราทำคุณงามความดีของเรา
เวลาทำหน้าที่การงานเสร็จแล้วนะ หลวงปู่ฝั้นท่านสอนไง อย่าหายใจทิ้งเปล่าๆ ไง อานาปานสติ การกำหนดลมหายใจเข้าและลมหายใจออกที่มีสติสัมปชัญญะนั่นน่ะ นั่นน่ะรักษาหัวใจ รักษาหัวใจเพราะอะไร เพราะจิตมันกำหนดอานาปานสติ เพราะเรามีเจตนา เจตนามันเกิดจากจิต สติปัญญาเกิดจากจิต ทุกอย่างเกิดจากจิตทั้งสิ้น มันมาจากหัวใจเราทั้งสิ้น
แต่เวลากิเลสมันครอบมันงำ ทุกอย่างความรู้สึกนึกคิดก็เกิดจากจิตทั้งสิ้น แต่มันไม่รู้จักจิตของมัน มันทิ้งๆ ขว้างๆ ไปเห็นข้าวของเงินทองยศถาบรรดาศักดิ์เป็นสิ่งที่มีคุณค่าไง มันหลอกขึ้นมาว่าทำสิ่งนั้นแล้วจะประสบความสำเร็จ จะมีความสุข มีความสมหวังทั้งสิ้นไง ไอ้นั่นมันเป็นปัจจัยเครื่องอาศัยเพื่อให้ร่างกายนี้เพื่อการเลี้ยงชีพไง
จิตนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เพราะมีบุญกุศลขึ้นมาเราถึงได้เกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นมนุษย์ขึ้นมา เกิดในประเทศไทยที่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ถ้าศาสนาประจำชาติหล่อหลอมศาสนาในประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข ประเทศไทยมีความระลึกถึงกัน มีการคุ้มครองดูแลต่อกัน
แต่ในสังคมทุกสังคมมีคนดีและคนชั่ว เวลาคนชั่วขึ้นมามันก็มาแสวงหา มาเอารัดเอาเปรียบของเขา ไอ้นั่นมันก็เรื่องเขาหาบเอาบาปเอากรรมของเขาเข้ามาในใจของเขา คนที่มีสติปัญญาขึ้นมาเขาทำประโยชน์เพื่อชาติ เพื่อโลก ทำเพื่อประโยชน์เพื่อสังคม แสวงหาแหล่งน้ำ แสวงหาความร่มเย็นเป็นสุขเพื่อสังคมนะ ทำที่พักที่อาศัยเพื่อสังคม นี่สิ่งที่แสวงหาบุญกุศลกัน
เวลาไปถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า เทวดามีอยู่จริงหรือไม่
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่า เธออย่าถามเลยเทวดามีอยู่หรือไม่มีอยู่ เทวดา เหตุที่จะให้เกิดเทวดาเรายังรู้เลย เหตุให้เกิดเป็นเทวดา ที่เราทำบุญกุศล ที่เราทำสาธารณประโยชน์นี่ไง เราทำให้เขาได้พึ่งพาความร่มเย็นเป็นสุขจากการกระทำของเรา จากน้ำพักน้ำแรงของเรา
นี่เหตุที่มันจะเกิดคุณงามความดีไง นี่คือการรักษาหัวใจๆ ที่ว่าหัวใจที่มันโยนทิ้งไป ไม่เคยดูแลมัน ถ้าเราจะดูแลมัน เราดูแลหัวใจด้วยอย่างนี้
หน้าที่การงานต้องทำนะ เกิดมาเป็นคนเขาวัดกันที่ผลงาน คนที่ผลงาน ผลงานทางโลก ขยันหมั่นเพียรก็เป็นผลงานอันหนึ่ง แต่ถ้าเป็นผลงานทางธรรมนะ เฮ้ย! พ่อแม่อยู่ในบ้านมันดูแลหรือเปล่าวะ พ่อแม่เขา ญาติพี่น้องของเขาตกทุกข์ได้ยาก ญาติเขาไม่ทิ้งกันนะ ญาติเขา เขาดูแลนะ เขามีญาติ เขามีพี่น้องนะ เดี๋ยวพี่น้องเขามาช่วยเหลือเขาไง นี่ไง คุณงามความดีทางธรรมไง
คุณงามความดีทางธรรม ถ้ามันมีคุณงามความดีทางธรรม มันมีความกตัญญูกตเวที มีความรู้สึกนึกคิด มีความรับรู้ในญาติ ในวงศ์ตระกูลของเรา นี่ไง คุณงามความดีทางธรรมๆ แล้วทางธรรมขึ้นมาแล้ว ถ้าเขามีสติปัญญาของเขา เขารักษาของเขา รักษาของเขาขึ้นมา แล้วถ้าเขาละเอียดลึกซึ้งไป เขารักษาหัวใจของเขา
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้กับบริษัท ๔ ไง อุบาสก อุบาสิกาไง เราเป็นเจ้าของศาสนา เรามีสิทธิเสรีภาพ เรียกร้องสิทธิ์ เป็นสิทธิ์ๆๆ เป็นสิทธิ์แล้วเอ็งทิ้งหัวใจเอ็งไปทำไม จะไปหย่อนบัตร มันไม่หย่อนบัตรลงกล่อง มันเอาบัตรไปทิ้งถังขยะไง
สิทธิของเรา สิทธิในการเกิด เกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนา ศีล สมาธิ ปัญญารักษาหัวใจของตนน่ะ มันเป็นสิทธิ์แต่เอ็งไม่ใช้สิทธิ์
มันเป็นสิทธิ์แล้วเอ็งก็เอาสิทธิ์นั้นมาดูแลตัวเองสิ ให้มันเป็นประโยชน์ขึ้นมา ประเดี๋ยวชีวิตนี้มีการพลัดพรากเป็นที่สุด เวลามันหมดสิทธิ์แล้วค่อยจะมาอยากจะใช้สิทธิ์ พอหมดสิทธิ์ขึ้นมานะ โอ้โฮ! เดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยๆ มันจะเลือกตั้ง แต่ถึงเวลาวันเลือกตั้งแม่งไม่ไป
นี่ก็เหมือนกัน ถึงเวลาแล้ว เวลาเราจะประพฤติปฏิบัติขึ้นมาไง เราทิ้งขว้างหัวใจของเราไป พระพุทธศาสนาสอนที่นี่ไง พระพุทธศาสนาสอนทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แล้วคุณงามความดีไม่ใช่วัดกันที่มูลค่า มันวัดกันที่เจตนา วัดกันที่สติปัญญา มีสติปัญญา ไม่ทำความประมาทเลินเล่อ เราไม่เบียดเบียนใครทั้งสิ้น ไม่กระทบกระเทือนใครเลยนะ ไปวัดไปวาไม่กระทบกระเทือนใครเลย มีใครเอาไปก่อน เอาไปเลย ที่เหลือเดี๋ยวฉันเอาเอง เวลาเหลือ เหลือเป็นกองเลยนะ ไอ้ที่มันเอาไปมันได้ไปอันเดียวเท่านั้นน่ะ เรามีอยู่กองหนึ่ง เพราะเขาเอาไป ใครอยากได้ ไปก่อน นี่มันไม่กระทบกระเทือนกัน เห็นไหม
เราไปวัดไปวาเพื่อประโยชน์กับเรา ถ้าทำคุณงามความดี ความดีมันเกิดอย่างนี้ แล้วเวลาไปนั่งสมาธิขึ้นมาภูมิใจมาก หลับตาไปแล้วพอใจ ไม่มีสิ่งใดมากวนใจเลย แต่ถ้ามันหลับตาไปแล้วนะ ไอ้นู่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ได้ ไอ้นี่ยังไม่ได้ทำ โอ้โฮ! มันกวนใจมาก นี่ไง กิเลส อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา อวิชชามันเกิดมาพร้อมกับจิต จิตมันมีอวิชชามันถึงได้พาเกิดไง
ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วันพระ อาทิตย์หนึ่งมีหนหนึ่ง เวลาปีหนึ่งเข้าพรรษารอบหนึ่ง เข้าพรรษารอบหนึ่งเพื่ออะไร เพื่อให้ค้นคว้า เพื่อให้มีการกระทำไง นี่มันเป็นสิทธิ์ แล้วมึงใช้สิทธิ์ไหม
เกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา หัวใจนี้มีคุณค่า ใช้สิทธิ์ แล้วใช้สิทธิ์เป็นด้วย แล้วใช้สิทธิ์ได้ด้วย แล้วหาหัวใจของตนเจอด้วย แล้วจิตมันสงบด้วย โอ้โฮ! โอ้โฮ!
จิตสงบนะ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ครูบาอาจารย์เราไม่ต้องไปสอน ท่านมีคุณธรรมในใจของท่าน ท่านเคารพบูชาในใจของท่าน อยู่ที่สงบสงัดเรียบง่าย
ไอ้ของเราใช้สิทธิ์แต่ไม่เข้าถึงสิทธิของเรา ไม่เข้าถึงใจของเรา เราถึงขวนขวาย ฟังธรรมๆ ตอกย้ำมันๆ ตอกย้ำ ตอกย้ำในหัวใจ หลวงพ่อพูดนี่ใช่หรือไม่ กาลามสูตร อย่าเชื่อ แล้วขวนขวายมีการกระทำขึ้นมา แล้วถ้ามันเป็นจริงขึ้นมานะ สาธุ
หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ครูบาอาจารย์ของเราอยู่ในป่าในเขา เวลากราบพระไง กราบถึงพระด้วย กราบถึงหัวใจ หัวใจนี้กราบ กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
เวลาหลวงตาท่านถึงที่สุดแห่งทุกข์ พระพุทธเจ้ารู้ได้อย่างไร พระพุทธเจ้ารู้ได้อย่างไร
พระพุทธเจ้า พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานอยู่ในใจอันเดียวกันน่ะ เวลากราบพระ กราบพระกราบถึงหัวใจไง นี่ใช้สิทธิ์ได้สิทธิสมบูรณ์แบบ ไอ้เราใช้สิทธิ์แล้วโดนโกง มีแต่ผีมันมาลงแทน แล้วเราไม่ได้สิ่งใดเลย เลยไม่ได้สิ่งใดไง
ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ เราทำของเราในวันพระ วันพระเราได้อุทิศส่วนกุศลของเราแล้ว เจ้ากรรมนายเวรๆ คนเกิดมามีเวรมีกรรมใดๆ ทั้งสิ้น เวลาครูบาอาจารย์ท่านให้ศีลให้พรนะ อุทิศส่วนกุศลให้เขา เราขวนขวายทำมาหยาดเหงื่อหยาดน้ำ หยาดเหงื่อของเราทั้งสิ้น พลังของเราทั้งสิ้นที่เราแสวงหามา เราได้ถวายพระ
วันนี้วันพระด้วย แล้วพระเวลาให้พร อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เราเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะไม่รู้สร้างเวรสร้างกรรมไว้กับใครมามากมายมหาศาล ถ้าเป็นบุญกุศลก็ให้บุญกุศลของเขาไป ถ้าเป็นบาปเป็นกรรมมีอะไรเกี่ยวข้องกันก็ขออภัยต่อกัน อุทิศส่วนกุศลให้รับบุญกุศลอันนี้ไปเพื่อประโยชน์กับเขาๆ
แล้วในปัจจุบันนี้เราจะใช้สิทธิ์ หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ หาพุทธะ หาความจริงในใจของเรา เราจะเข้าไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลางหัวใจนี้ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานกลางหัวใจนี้ให้สมกับความเกิดเป็นมนุษย์ เกิดพบพระพุทธศาสนา เอวัง